L-theanine เป็นกรดอะมิโนที่พบมากในใบชา โดยเฉพาะชาเขียว จากการศึกษาของ Nobre และคณะในปี 2008 ระบุว่า L-theanine มีคุณสมบัติในการส่งเสริมการผ่อนคลายโดยไม่ทำให้ง่วงนอน
จากการวิจัยของ Giesbrecht และคณะในปี 2010 เมื่อรับประทานร่วมกับคาเฟอีน L-theanine ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและความสามารถในการจดจ่อได้มากขึ้น
การศึกษาของ Hidese และคณะในปี 2019 พบว่า L-theanine ช่วยลดความเครียดและอาการวิตกกังวลในสถานการณ์ต่างๆ
แม้ไม่ใช่ยานอนหลับ แต่จากการศึกษาของ Lyon และคณะในปี 2011กล่าวว่า L-theanine สามารถช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นโดยลดความเครียดและความวิตกกังวลลงได้
โดยทั่วไป ปริมาณ L-theanine ที่แนะนำอยู่ระหว่าง 200-400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่ง L-theanine เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงในการใช้ระยะสั้น
Inositol เป็นสารประกอบที่มีโครงสร้างคล้ายน้ำตาล เคยถูกจัดอยู่ในกลุ่มวิตามิน B แต่ปัจจุบันไม่ถือเป็นวิตามินเนื่องจากร่างกายสามารถผลิตได้เอง จากการศึกษาของ Bizzarri และคณะในปี 2014 กล่าวว่า Inositol มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเซลล์และระบบประสาท
จากงานวิจัยของ Unfer และคณะในปี 2012กล่าวว่า Inositol ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและอาจช่วยในการบรรเทาภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
มีการศึกษาของ Pintaudi และคณะในปี 2019 ที่แสดงให้เห็นว่า Inositol อาจช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ปริมาณ Inositol ที่ใช้ในการศึกษาทางคลินิกมีตั้งแต่ 2-18 กรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ โดย Inositol มีความปลอดภัยสูง แต่อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือคลื่นไส้หากใช้ในปริมาณสูงเกินไป
ทั้ง L-theanine และ inositol มีคุณสมบัติในการลดความเครียดและความวิตกกังวล การใช้ร่วมกันอาจเสริมฤทธิ์กันในการบรรเทาอาการเหล่านี้
L-theanine ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอน ในขณะที่ inositol อาจช่วยลดความวิตกกังวลที่อาจรบกวนการนอน จึงช่วยให้การนอนมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
ทั้ง L-theanine และ Inositol เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย โดย L-theanine มีคุณสมบัติในการลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ ในขณะที่ Inositol มีบทบาทสำคัญในปรับสมดุลฮอร์โมนอย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ถูกกฎหมาย โดยผ่าน อย. ไทย ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลอ้างอิง