NADH คำนี้คืออะไร ทำไมได้ยินบ่อย

     NADH คำที่มักได้ยินบ่อยจนชินหูในปัจจุบัน ในวงการของคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศาสตร์ของการชะลอวัย โดย NADH นั้นเป็นตัวย่อของคำว่า Nicotinamide adenine dinucleotide ซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ “วิตามิน” เนื่องจากเป็นอนุพันธ์ุของวิตามินบี 3 ที่ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ ที่นับว่ามีบทบาทสำคัญอันดับต้นๆของร่างกายเลยทีเดียว

     NADH ที่ว่าได้ยินกันจนคุ้นหู สำหรับสายสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องการชะลอวัย ก็เป็นเพราะคุณสมบัติของ NADH ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการเพิ่มพลังงานในระดับเซลล์ และเมื่อเซลล์ในร่างกายมีพลังงานที่เพียงพอก็จะสามารถช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้นั่นเอง นี่จึงทำให้ NADH นั้นได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งการชะลอวัย” 

     NADH นั้น นอกจากจะช่วยเรื่องการชะลอวัยเป็นหลักอยู่แล้ว ยังมีคุณสมบัติในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น มีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท ทำให้สมองและความจำ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึง คุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของอร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราป่วยได้ยากขึ้นนั่นเอง

ทำไมต้องเพิ่ม NAD+/NADH ในร่างกายด้วยหล่ะ

     NAD+/NADH นั้นความจริงเป็นสารที่พบได้ทั่วไปในร่างกาย โดยจากหลายงานวิจัยระบุว่า ระดับของ NAD+/NADH ในร่างกายนั้นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะลดเหลือเพียงครึ่งเดียวตอนอายุได้ 50 ปี และลดไปเหลือเพียง 20% เมื่ออายุ 70 ปี เลยทีเดียวดังนั้น การเพิ่ม NAD+/NADH ในร่างกาย ก็เปรียบเสมือนการเติมเชื้อเพลิงให้ร่างกายได้มีพลังงานที่เพียงพอเพื่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆได้น้อยลง ช้าลงนั้นเอง

NAD+ แบบฉีดหล่ะ คืออะไรกันนะ

     NAD+ Therapy เป็นรูปแบบการรับ NAD+ ผ่านหลอดเลือดดำ หรือการฉีดนั่นเอง นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกายอีกรูปแบบที่ให้ผลได้ไว และไม่ต้องผ่านระบบทางเดินอาหารอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธียอดฮิตที่นิยมกันมากในปัจจุบัน โดยต้องอาศัยขั้นตอนที่มีหลายขั้น ใช้เวลาในการทำ และต้องมีผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นจากคลินิก หรือ โรงพยาบาลในการทำเพื่อความปลอดภัย

NADH แบบทาน VS NADH แบบฉีด

     หลายคนอาจสงสัยว่าวิธีการใดจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเพิ่มระดับ NADH ในร่างกายระหว่างในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือในรูปแบบให้ผ่านหลอดเลือดดำที่เรียกง่ายๆว่า “การฉีด” โดยรูปแบบของการรับประทานนั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาไปยังสถานพยาบาลต่างๆและมีงบประมาณที่จำกัด ส่วนในรูปแบบของการฉีดนั้น จะเห็นผลลัพท์ได้ไวมากกว่า ในราคาที่สูงกว่า ใช้เวลามากกว่า และอาจเกิดผลข้างเคียงได้มากกว่าในรูปแบบรับประทาน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล 

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ NADH

     จากงานวิจัยของ Marrero และคณะในปี 2015 ระบุว่าการรับประทาน NADH มีส่วนช่วยในเรื่องของอาการ อ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) ได้อย่างมีนัยสำคัญ และ นอกจากนี้การศึกษาของ Birkmayer และ Wirkmayer ในปี 1991 ระบุว่า NADH ยังมีส่วนช่วยในการาปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งมีส่วนช่วยในผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้ดีอีกเช่นกัน

อ้างอิงข้อมูล

• https://ch9airport.com/th/nad-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/ 

• Jesu´s Castro-Marrero, Mario D. Cordero, Marı´a Jose´ Segundo, Naia Sa´ez-Franca`s, Natalia Calvo, Lourdes Roma´n-Malo, Luisa Aliste, Toma´s Ferna´ndez de Sevilla, and Jose´ Alegre, Does Oral Coenzyme Q10 Plus NADH Supplementation Improve Fatigue and Biochemical Parameters in Chronic Fatigue Syndrome?, ANTIOXIDANTS & REDOX SIGNALING Volume 22, Number 8, 2015, pp. 679-685.

• J.G.D.Birkmayer, W.Birkmayer, THE COENZYME NICOTINAMIDE ADENINE DINUCLEOTIDE (NADH) AS BIOLOGICAL ANTIDEPRESSIVE AGENT EXPERIENCE WITH 205 PATIENTS, New Trends in Clinical Neuropharmacology Vol. V - n. 314-1991 75, pp. 1-9.