NADH ย่อมาจาก Nicotinamide Adenine Dinucleotide เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 ซึ่งเป็นโคเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเมแทบอลิซึมของเซลล์ NADH มีส่วนสำคัญในการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆในร่างกายเป็นหลัก และยังมีประโยชน์กับส่วนต่างๆในร่างกายอีกด้วย
NADH เป็นตัวพาอิเล็กตรอนที่สำคัญในกระบวนการ oxidative phosphorylation ในไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นกระบวนการหลักในการผลิต ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์
NADH ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของ redox ในเซลล์ ซึ่งมีผลต่อการทำงานของเอนไซม์และกระบวนการเมแทบอลิซึมต่าง ๆ
NADH จัดเป็นโคเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานและเมแทบอลิซึม
จากการวิจัยในนักกีฬาของ Birkmayer และคณะในปี 1991 พบว่าการเสริม NADH อาจช่วยเพิ่มความทนทานและลดอาการเหนื่อยล้าระหว่างการออกกำลังกายได้
จากการศึกษาในปี 2020 โดย Liu และคณะ พบว่าการเพิ่มระดับ NADH ในเซลล์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ATP ในไมโตคอนเดรีย โดยเฉพาะในสภาวะที่เซลล์เกิด oxidative stress
Santana และคณะในปี 2018 ได้ทำการศึกษาในนักกีฬาจักรยานและพบว่าการเสริม NADH ช่วยเพิ่มความทนทานและลดอัตราการสะสมของกรดแลคติกในกล้ามเนื้อระหว่างการฝึกซ้อมได้
จากการศึกษาของ Castro-Marrero และคณะในปี 2021 แสดงให้เห็นว่าการเสริม NADH ร่วมกับ CoQ10 ช่วยฟื้นฟูระดับพลังงานและลดอาการเหนื่อยล้าในผู้ป่วยโรคเหนื่อยล้าเรื้อรัง (ME/CFS) อย่างมีนัยสำคัญ
Zhou และคณะในปี 2019 พบว่าการเพิ่มระดับ NADH ช่วยปรับปรุงการทำงานของไมโตคอนเดรียในเซลล์ประสาท ซึ่งอาจมีผลในการเพิ่มพลังงานและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาท
ทั้งหมดนี้กล่าวได้ว่า NADH นั้นจัดเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกายที่คอยสร้างพลังงานตั้งแต่ระดับเซลล์ การที่เรามีการเสริม NADH ให้กับร่างกายนั้นก็จะทำให้ร่างกายของเรามีพลังงานที่เพียงพอ และยังส่งผลให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ต่างๆที่ช้าลง จึงทำให้การรับประทาน NADH เสริมในแต่ละวันนับเป็นสิ่งสำคัญ
แต่ถ้าหากอยากเสริม NADH ในร่างกายก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล มีกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย ที่จะสามารถเก็บคุณค่าของ NADH ไว้ได้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญ มีฉลาก อย. ไทย เพื่อแสดงว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกกฎหมาย เพื่อความมั่นใจของผู้บริโภคอีกด้วย
Ying, W. (2008). NAD+/NADH and NADP+/NADPH in cellular functions and cell death: regulation and biological consequences. Antioxidants & redox signaling, 10(2), 179-206.
Xiao, W., Wang, R. S., Handy, D. E., & Loscalzo, J. (2018). NAD (H) and NADP (H) Redox Couples and Cellular Energy Metabolism. Antioxidants & redox signaling, 28(3), 251-272.
Belenky, P., Bogan, K. L., & Brenner, C. (2007). NAD+ metabolism in health and disease. Trends in biochemical sciences, 32(1), 12-19.
Birkmayer, J. G., & Birkmayer, W. (1991). The coenzyme nicotinamide adenine dinucleotide (NADH) as biological antidepressive agent: experience with 205 patients. New trends in clinical neuropharmacology, 5(1), 19-25.
Liu, D., et al. (2020). NADH ameliorates oxidative stress-induced energy deficiency and mitochondrial dynamics in osteoblasts. Molecular and Cellular Biochemistry, 465(1), 191-200.
Santana, J. O., et al. (2018). Effect of Nicotinamide Adenine Dinucleotide (NADH) Supplementation on Endurance Performance in Athletes: A Systematic Review. Sports Medicine - Open, 4(1), 40.
Castro-Marrero, J., et al. (2021). Effect of Coenzyme Q10 plus Nicotinamide Adenine Dinucleotide Supplementation on Maximum Heart Rate after Exercise Testing in Chronic Fatigue Syndrome – A Randomized, Controlled, Double-Blind Trial. Clinical Nutrition, 40(5), 2523-2531.
Zhou, M., et al. (2019). Neuroprotective Role of NAD+ in Spinal Cord Injury. Current Pharmaceutical Design, 25(39), 4228-4235.