พัฒนาการของหนูๆ ดูแลกันตั้งแต่ต้นทาง

     น้องๆหนูๆในช่วงอายุ 4-12 ปีนั้น นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต ซึ่งเป็นระยะสำคัญในพัฒนาการของน้องๆ โดยจะครอบคลุมตั้งแต่วัยก่อนเข้าเรียนจนถึงช่วงปลายของการศึกษาระดับประถม ในช่วงนี้ เด็กๆจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม จึงเป็นวัยที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับน้องๆเป็นพิเศษ เรามาดูกันว่า เด็กๆในแต่ละช่วงวัยจะมีรูปแบบพัฒนาการแบบใดกันบ้าง 

พัฒนาการทางด้านร่างกาย

     ช่วงอายุ 4-6 ปี: เด็กๆจะมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวแบบหยาบ (Gross motor skills) ที่ดีขึ้น เช่น การวิ่ง กระโดด และปีนป่ายสิ่งต่างๆ (Papalia & Feldman, 2012) 

     วัย 7-12 ปี: ทักษะการเคลื่อนไหวแบบละเอียด (Fine motor skills) จะพัฒนามากขึ้น ช่วยให้เด็กๆสามารถเขียนหนังสือและทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดอื่นๆ ได้ดีขึ้น

พัฒนาการทางสติปัญญา 

     เด็กอายุ 4-6 ปี: ตามทฤษฎีของเพียเจต์ (Piaget's theory of cognitive development) จะอยู่ในขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการ (Preoperational stage) ซึ่งเด็กเริ่มใช้สัญลักษณ์และภาษาในการคิด แต่ยังมีข้อจำกัดในการมองมุมมองของผู้อื่น (Piaget, 1952) 

     ช่วงอายุ 7-12 ปี: เด็กจะเข้าสู่ขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม (Concrete operational stage) สามารถคิดอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้

พัฒนาการทางภาษา

     งานวิจัยของ Hoff (2014) พบว่าเด็กอายุ 4-5 ปีสามารถใช้ประโยคที่ซับซ้อนขึ้นและมีคำศัพท์ประมาณ 1,500-2,000 คำ เมื่อเข้าสู่วัยประถมศึกษา ทักษะการอ่านและการเขียนจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยเด็กอายุ 12 ปีจะมีคำศัพท์มากถึง 50,000 คำ

DHA สำคัญกับเด็กๆ ได้อย่างไรกันนะ

     DHA (Docosahexaenoic Acid) เป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของสมองและระบบประสาทของเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 4-12 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่สมองของเด็กๆ ยังคงมีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

โดยแหล่งอาหารที่อุดมด้วย DHA ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน นอกจากนี้ยังมีในไข่แดง สาหร่ายทะเล และอาหารเสริมสำรับเด็กอีกด้วย

งานวิจัยเรื่อง DHA ที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆ

     DHA มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กๆเป็นอย่างมาก จึงมีการศึกษาวิจัยในเรื่องของ DHA กับพัฒนาการของเด็กๆมีดังนี้

     จากงานวิจัยของ Ryan และคณะในปี 2010 พบว่า DHA มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างและการทำงานของเซลล์ประสาท ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้และความจำของเด็ก

     การศึกษาของ Kuratko และคณะในปี 2013 แสดงให้เห็นว่าการได้รับ DHA อย่างเพียงพอมีความสัมพันธ์กับคะแนน IQ ที่สูงขึ้นในเด็กวัยเรียนได้อีกด้วย

     และจากงานวิจัยของ Swanson และคณะในปี 2012 ยังพบอีกว่า DHA มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในเด็กให้ดีมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง

• Papalia, D. E., & Feldman, R. D. (2012). Experience Human Development (12th ed.). McGraw-Hill.

• Piaget, J. (1952). The origins of intelligence in children. International Universities Press.

• Hoff, E. (2014). Language development (5th ed.). Wadsworth Cengage Learning.

• Ryan, A. S., Astwood, J. D., Gautier, S., Kuratko, C. N., Nelson, E. B., & Salem Jr, N. (2010). Effects of long-chain polyunsaturated fatty acid supplementation on neurodevelopment in childhood: a review of human studies. Prostaglandins, Leukotrienes and Essential Fatty Acids, 82(4-6), 305-314.

• Kuratko, C. N., Barrett, E. C., Nelson, E. B., & Salem Jr, N. (2013). The relationship of docosahexaenoic acid (DHA) with learning and behavior in healthy children: a review. Nutrients, 5(7), 2777-2810.

• Swanson, D., Block, R., & Mousa, S. A. (2012). Omega-3 fatty acids EPA and DHA: health benefits throughout life. Advances in nutrition, 3(1), 1-7.