ดูแลตัวเองอย่างไรให้ไกลโรคช่วงหน้าฝน

                พอเข้าสู่หน้าฝนหลายคนเริ่มกังวลในเรื่องสุขภาพ เป็นฤดูที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้เอาซะเลย แถมยังมีโรคต่างๆที่จะตามมาในหน้าฝนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ เป็นหวัด ไข้เลือดออก โรคฉี่หนู เป็นต้น
                เพราะฉะนั้นเราจึงควรหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้นในช่วงหน้าฝนนี้ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ

โรคที่มากับหน้าฝน

                โรคจากไวรัส ที่ทำให้เป็นหวัดคัดจมูกและเป็นไข้ รวมไปถึงไข้หวัดใหญ่
                คอติดเชื้อ จะเริ่มมีอาการเจ็บคอเป็นหลัก จากนั้นจะมีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามมา บางรายมีน้ำมูกร่วมด้วย เกิดจากการเผลอกลืนน้ำฝนปนเปื้อนลงคอไปจนทำให้คออักเสบ
                ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ เนื่องจากอาหารสดตามตลาดอาจได้รับเชื้ออีโคไลจากน้ำฝนที่ปนเปื้อน ซึ่งเชื้ออีโคไลเป็นเชื้อที่ทำให้ลำไส้อักเสบติดเชื้อ จึงทำให้เกิดความผิดปกติในระบบย่อยอาหารตามมา
                โรคฉี่หนู หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำขัง เพราะจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ โดยจะมีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดตามตัวและเบื่ออาหาร
                ไข้เลือดออก เป็นโรคร้ายที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยอาการจะมีไข้สูงมาก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เซื่องซึม หากมีอาการควรรีบไปพบแพทย์ทันที

7 วิธีดูแลตัวเองในช่วงหน้าฝน

                พกร่มหรือเสื้อกันฝน ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกฝน จะสามารถลดการอับชื้นและการสะสมเชื้อราอันเป็นสาเหตุของการไม่สบายตัวและนำไปสู่การเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ได้
                ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร และดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ เมื่อร่างกายโดนฝนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ต้านการอักเสบ แก้หวัด แก้เจ็บคอ ป้องกันการติดเชื้อโรคได้ เช่น ชาดอกคาโมมายล์ ชาเขียว ชาตะไคร้หอม ชาน้ำขิงมะนาว
                ทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้สดที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายแข็งแรง และยับยั้งการเกิดโรคได้
                ทานวิตามินซีเสริม จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของเรา ในฤดูกาลเช่นนี้ อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายมาก การมีภูมิคุ้มกันที่ดีจะช่วยให้เราป่วยยาก
                พักผ่อนให้เพียงพอ ควรจะนอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้น
                ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเต้นแอโรบิค  การเดินเร็วๆ การวิ่งเหยาะ  การขี่จักรยาน เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอีกด้วย
                ป้องกันไม่ให้ยุงกัด เพราะในช่วงฤดูฝนมีหลายโรคที่ยุงเป็นพาหะออกระบาด เช่น ไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค

อ้างอิงข้อมูลจาก
•    https://www.community.or.th/blog/2020/06/01/10-วิธีวิธดูแลสุขภาพในฤ/
•    http://dept.npru.ac.th/edu2/data/files/20191107133511_20150816094217_PR%20arit%20rain%20winter.pdf
•    https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/405